Avsnitt

  • มีคนมาปรึกษาว่า คือเราคุยกับผู้ชายคนนึงวันละหลายชั่วโมงมาก ๆ แบบโทรคุยกันตลอด คุยกันทุกเรื่อง เวลาเขายุ่งเราโทรไปเขาก็บอกว่าคุยได้นะ ไม่ต้องวางสาย คุยกันแบบสนุกมาก ๆ ตอนอยู่ด้วยกันก็คุยกันแบบไม่จับมือถือเลย มันดีต่อใจมาก อยู่ด้วยกันแล้วเขาก็ดูแลเราดี ใส่ใจมาก ๆ แต่ว่าเขาบอกเราว่าความรู้สึกมันก็ชอบเรานะ เราตรงสเปกทุกอย่าง สวยนิสัยดี แต่ไม่ถึงขั้นชอบเราแบบเป็นแฟน เราถามเขาว่า ถ้าเราคุยกันต่อไป โอกาสจะเป็นมากกว่าเพื่อนได้ไหม เขาก็บอกอย่างเดียวว่าไม่รู้ ๆ ตอนนี้เราควรทำยังไงต่อไปดีคะ สับสนมาก แต่ตอนอยู่กับเขาเราตอบตัวเองได้เลยว่ามีความสุขมาก และเขาเองก็ดูมีความสุขเหมือนกันค่ะ ลึก ๆ แล้วพอรู้ตัวว่าเขาก็ยังลืมแฟนเก่าไม่ได้ เขาเลิกกับแฟนเก่ามาแล้วเกินปีกว่าค่ะ แฟนเก่าเขาก็ไปมีคนใหม่แล้ว ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันเลยค่ะ เราเลยอยากรู้ว่าควรไปต่อหรือพอแค่นี้ดีคะ ขอบคุณค่ะ

    - สัญญาณที่ย้ำเตือนมากกว่า 1 ครั้งไม่ควรเพิกเฉยอย่างเด็ดขาด

    - เรื่องอนาคตเป็นเรื่องของอนาคต แต่ถ้าเรารู้ว่าใจตอนนี้เราต้องการอะไร แล้วอีกฝ่ายต้องการอะไรจริง ๆ ก็ตามนั้น

    - บางทีเราลองคุยกันได้ ลองคบกันไปดูแต่อาจจะยังไม่ต้องเป็นแฟนกันแบบผูกมัด แล้วสังเกตว่าสถานการณ์มันเป็นยังไง

    - เหมือนว่าสถานะก็จะกำหนดความคาดหวัง ความปรุงแต่ง และความหมายต่ออนาคต ถ้าเราไม่ได้ตกลงปลงใจกัน ก็อาจจะตอบยาก

    - คนบางคนรู้ใจตัวเองดีว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ไม่ใช่ว่าจะทำให้คนอื่นชอบได้ด้วยความผูกพัน แต่ละคนมีจุดที่ชอบต่างกันไปในแต่ละปัจเจกชน

  • ข้อความโพสต์จาก Mark Minervini ได้เขียนข้อความไว้ว่า "เมื่อตลาดอยู่ภายใต้การขายอยู่เรื่อย ๆ มันคือประสบการณ์ที่เราต้องเข้าใจว่า มันคือถ่ายออกของหุ้น การขายหุ้นในช่วงลงของราคา อาจจะทำให้รู้สึกเหมือนหุ้นมันจะกำลังขึ้น การกลับด้าน และผิดพลาด โดยเฉพาะช่วงกรอบเวลากว้างมันอาจจะแข็งแกร่งหรือกำลังกระจายตัวออก ดูเหมือนว่าการปิดของราคาในช่วงเวลาสั้น ๆ มันอาจจะทำให้การขึ้นของราคาลดต่ำลงมา เทรดเดอร์มือใหม่ก็จะเทรดหุ้นแบบฟันปลา ในช่วงเวลาที่ผันผวนนั้น คือมันก็ทำให้เราโทษว่าการขึ้นทะลุแนวต้านไม่มีทางได้ผลอีกแล้ว แต่มันกลับกลายเป็นไม่ใช่แบบนั้นเลย นั่นมันไม่ใช่จุดทะยานขึ้นไปจริง ๆ เพราะการขึ้นไปของราคามันอยู่ที่ตลาดตัดสินใจ ไม่ว่าจะทางใดก็ตามคุณควรที่จะสร้างทักษะ แล้วใช้เวลา ไม่อย่างนั้นใคร ๆ ก็สามารถสร้างเงินล้านได้จากการเทรดไปหมดแล้ว อย่าโทษสิ่งใด แต่จงรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อคุณได้ปลูกฝังสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว คุณก็จะมีความสามารถในการรับผิดชอบอย่างสมบูรณ์ โชคดีในการเทรด"

    - จุดที่เราจะซื้อหุ้นส่วนใหญ่จะต้องเป็นจุดที่ทะลุผ่านแนวต้านไปแล้วเท่านั้น

    - แต่บางครั้งการทะลุแนวต้านแบบหลอก ๆ เราจึงต้องสังเกตแล้วรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น

    - ไม่มีใครที่จะทำนายตลาดได้ แน่นอนบางทีอาจจะโดนหลอกหลายรอบ แต่รอบที่จริงต้องเชื่อมั่น

    - แม้แต่การกระจายออกของหุ้น มันจะถูกทำให้เหมือนว่าจะทะลุแนวต้านตลอด แต่ก็ไม่สามารถยืนได้จริง

    - ประสบการณ์จะสอนใจเราว่า เราต้องทำอย่างไรให้สร้างกำไรในระยะยาวได้ รูปแบบหน้าเทรดจะต้องขึ้นอยู่กับคน ๆ นั้น

  • Saknas det avsnitt?

    Klicka här för att uppdatera flödet manuellt.

  • หนังสือ Short-Selling with the O'Neil Disciples: Turn to the Dark Side of Trading ของ Gil Morales and Chris Kacher

    - Short Sell อาจจะไม่ใช่ทางสำหรับทุกคน แต่มันเหมาะสำหรับคนที่เห็นกราฟอย่างชัดเจน

    - เมื่อเราชอร์ตหุ้น เราก็จะต้องเรียนรู้ให้ได้ว่าทิศทางของราคามันจะไปยังทิศทางใด ซึ่งส่วนใหญ่ราคาหุ้นมักจะร่วงมากกว่าขึ้น

    - ตลาดหมีมักจะมีช่วงเวลาที่ยาวนานเป็นอันดับสอง ส่วนตลาดออกข้างจะมาเป็นอันดับหนึ่งตลอดกาล เราจึงต้องหาทางทำกำไรทุกสภาวะ

    - พอร์ตหุ้นของเราจะต้องโฟกัสให้ชัดว่า หุ้นแบบไหนเหมาะกับการชอร์ตมากกว่าการถือยาว เพราะหุ้นแต่ละตัวมีนิสัยแตกต่างกัน

    - การเทรดแบบขาลง จะเหมือนกันเลยกับการเทรดแบบขาขึ้น แค่กลับทิศกันแล้วการลงมักจะรุนแรงกว่าขึ้นเสมอ

  • มีคนมาปรึกษาว่า ทำงานที่เดียวกับแฟนแต่แฟนไม่เคยชวนกินข้าวเที่ยงเลย เคยคุยกันเรื่องนี้แล้ว แต่เขาบอกว่าอยากไปกับเพื่อนมากกว่า เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน นาน ๆ ทีจะได้อยู่กันที อาทิตย์ละหนึ่งวัน แล้วมันรู้สึกว่าเหมือนเขาไม่อยากใช้เวลากับเราเลย บางทีก็รู้ตัวว่าทำแบบนี้ แต่ก็ยังไม่เลิกกับเขาไป อยากรู้ว่าคู่คนอื่นเป็นแบบเราไหม เรื่องแบบนี้เราเก็บมาไม่พอใจ เราผิดไหม แล้วมีวิธีแก้ไขไหม หรือว่าเราเยอะเกินไป

    - คำว่าคู่ชีวิตอาจจะไม่จำเป็นต้องทำอะไรเป็นคู่ตลอด มันอยู่ที่คู่เราว่าเขาชอบอะไรแบบไหน

    - เมื่อความสุขของคนเราไม่เท่ากัน มันก็จึงต้องหาทางออกให้เจอว่าเราจะทำอย่างไร

    - ไม่มีสิ่งใดหมุนรอบตัวเรา จงอย่าใช้ชีวิตเหมือนว่าต้องคิดว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้ หวังดีกับแฟนให้มากที่สุดจะดีกว่า

    - การที่เรามอบความรักให้กับแฟนของเรา หรือคนรอบข้างของเรา มันจะยิ่งทำให้ทุกอย่างชัดเจนว่า ความสุขคืออะไร

    - ยิ่งให้ยิ่งได้ คำนี้เป็นคำที่สำคัญอย่างยิ่ง คนส่วนใหญ่กลัวว่าเราจะไม่ได้รับ แล้วมองอย่างตรงไปตรงมาว่า ถ้าไม่เรียกร้องจะได้ ได้อย่างไร

  • ข้อความโพสต์จาก Morgan Housel ได้เขียนข้อความไว้ว่า "ความสุขขั้นสุดของมนุษย์อาจจะมีเพียงแค่กึ่งหนึ่งของค่าเฉลี่ยความสุขของสัตว์เลี้ยงเราก็ได้"

    - บางทีสัตว์เลี้ยงของเรามันอาจจะทุกข์ในแบบของมัน แต่มองเผิน ๆ มันน่าจะมีความสุขกว่ามนุษย์ก็ได้

    - ปัญหาของมนุษย์นั้นยิ่งใหญ่เสมอ แต่ปัญหาของสัตว์อาจจะไม่ได้สำคัญอะไรกับมันขนาดนั้น

    - ความทุกข์ของสัตว์เลี้ยงน่าจะเป็นสิ่งที่มันรู้ว่า เจ้าของกำลังจะทิ้งมัน หรือว่ามันกำลังจะตายนี่อาจจะจับต้องได้

    - สังเกตสีหน้าแววตาของสัตว์เลี้ยงของเราบ้าง มันอาจจะสอนใจอะไรเราได้บ้าง อย่างน้อยก็สอนให้เราปล่อยวาง

    - เมื่อการแบกโลกทั้งใบอาจจะดูหนักอึ้งเกินไป เรียนรู้ให้ได้ว่าเราไม่ใช่พระอิฐพระปูน ไม่จำเป็นต้องทนทุกอย่าง

  • หนังสือ Healing from Toxic Relationships: 10 Essential Steps to Recover from Gaslighting, Narcissism, and Emotional Abuse ของ Stephanie Moulton Sarkis

    - 10 ข้อในการผ่านพ้นคนเป็นพิษได้นั่นก็คือ 1. ป้องกันหรือสร้างขอบเขตในการติดต่อ 2. สร้างระบบให้ชัดเจน 3. ให้อภัยตัวเอง 4. สร้างขอบเขตของตัวเอง 5. สนทนากับผู้รู้ 6. โอบกอดตัวเอง 7. เชื่อมต่ออีกครั้ง 8. ความทุกข์ 9. มองไปข้างหน้า และ 10. หลีกเลี่ยงและป้องกันคนที่เป็นพิษ

    - ไม่มีใครอยากจะพบเจอปัญหา หรือคนที่เป็นพิษ แต่เราต้องรู้วิธีในการเยียวยาจิตใจด้วย

    - รู้หลักการก่อนว่า ไม่มีใครอยากเป็นพิษให้แก่กัน แต่บางทีตัวเราเองก็มีโอกาสเป็นพิษให้กับผู้คนรอบข้าง

    - ความสุขในชีวิตมันคือสิ่งที่ท้าทายกับความรู้สึกของเรามาก ให้โอกาสตัวเองได้เรียนรู้กับประสบการณ์ที่ไม่ดีด้วย

    - บางความสัมพันธ์ต้องตัดทิ้งไป บางความสัมพันธ์ควรรักษา และบางความสัมพันธ์ไม่จำเป็นต้องทำอะไรมาก

  • มีคนมาปรึกษาว่า ตอนนี้เรียนอยู่มหาลัยค่ะ พ่อกับแม่แยกกันอยู่ ส่วนแม่อยู่กับเราค่ะแต่รู้สึกว่าแม่เป็นพิษกับเรามาก ชอบเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก เราไม่สามารถออกไปข้างนอกได้โดยที่เขาไม่ว่าเราเลยสักคำ หรือแม้กระทั่งกลับดึกก็คือประมาณ 2-3 ทุ่ม เขาก็จะว่าเราตลอดว่า ไม่มีบ้านเลยมั้ง บ้านไม่อยากกลับ ทิ้งให้แม่อยู่คนเดียว ถ้าเขาตายก็คงปล่อยให้ตายไปเลยสิ ส่วนพ่อก็คือเป็นคนที่ชอบดื่มเหล้า เวลาเราห้ามก็ไม่ค่อยฟัง เรามีพี่ชายค่ะ แต่เขาจะให้เราไปอยู่ด้วยโดยเสนอว่า ให้แม่ไปอยู่กับพ่อ เพราะอย่างน้อยก็ให้ดูแลพ่อหน่อย เป็นห่วงเพราะแกไปอยู่คนเดียวยิ่งกินเหล้าเยอะก็ยิ่งห่วง ใจเราก็เป็นห่วงแม่ค่ะ ไม่อยากให้อยู่บ้านคนเดียว เพราะมันมีเหตุการณ์ที่แม่เป็นแบบนี้มาตลอด เราได้ยินอะไรแบบนี้ก็รู้สึกแย่ เป็นห่วงทั้งพ่อแม่เลยค่ะ จะจัดการกับสถานการณ์นี้ยังไงดีคะ

    - ไม่ว่าเราจะตัดสินใจทางใด พ่อแม่ท่านก็จะมีนิสัย และพื้นเพเดิมของท่านอยู่ดี

    - ให้เราโฟกัสที่ชีวิตของตัวเราเองเป็นหลัก ใช้ชีวิตตัวเองเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลังว่าเราจะอยู่ให้ดีได้อย่างไร

    - โจทย์ที่ยากที่สุดในชีวิตก็คือ เราอยากจะเปลี่ยนผู้คนรอบข้างให้เป็นดังใจเราไปเสียหมด

    - ลองปรึกษาทุกคนดูอีกทีหนึ่งเพื่อให้ได้คำตอบ ที่เป็นกลางที่สุด แต่ก็ไม่มีคำว่ากลางในโลกใบนี้อยู่ดี

    - เมื่อคน ๆ หนึ่งตัดสินใจไปทางหนึ่ง หน้าที่เราคือน้อมรับผลที่ถูกตัดสินนั้น แล้วสอบทานตัวเองว่าเราทำผิดหรือถูกอย่างไร

  • ข้อความโพสต์จาก Ray Dalio ได้เขียนข้อความไว้ว่า "รากของสาเหตุคือการอธิบายในแง่มุมของคำคุณศัพท์ ไม่ใช่กริยา จึงเป็นสิ่งที่ต้องหมั่นถามว่าทำยังไงถึงจะมองเห็นรากของปัญหา ตั้งแต่โลกนี้มีสิ่งมากมายสำเร็จและไม่สำเร็จ เพียงเพราะมีบางคนได้ตัดสินใจทำบางสิ่ง หรือไม่ทำบางสิ่งในหนทางหนึ่ง แม้กระทั่งรากของปัญหาก็ย่อมติดตามไปเหมือนเป็นเงาตามตัว ที่จะบ่งชี้ว่ารูปแบบใดเล่าจึงเกิดขึ้นแบบนั้น แล้วมันก็แน่นอนว่า คนที่น่าเชื่อถือมันก็จะมีโอกาสทำพลาดได้เช่นกัน แต่มันก็ยังพอให้อภัยได้ แต่ถ้าปัญหามันอยู่ที่บุคคลนั้น คุณควรจะตั้งคำถามว่า ทำไมคุณถึงทำมันพลาด และคุณควรจะมีการพินิจพิจารณาถึงความผิดพลาดนั้น ๆ เฉกเช่นเดียวกับอุปกรณ์ของการแก้ไขปัญหาหนึ่งเพื่อหาคำตอบที่ดีเยี่ยมร่วมกัน"

    - จงจดจำไว้ว่า รากของสาเหตุมิใช่ให้เราต้องไปทำอะไร แต่มันคือที่มาของเหตุผล

    - เรียนรู้ให้ได้ว่ารากของปัญหาเป็นเพียงแง่มุมหนึ่งของเหตุผลทั้งหมด ไม่ใช่บทสรุปว่ามันคือปัญหาจริง ๆ รึเปล่า

    - แต่ถ้าเราไม่รู้จะแก้ที่ไหนจริง ๆ การแก้ไขที่เหตุเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมของการแก้ไขปัญหาทั้งหมดอยู่แล้ว

    - สิ่งนี้มี สิ่งนั้นจึงมี ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ และดับไปเพราะเหตุ ๆ นั้นเท่านั้นเอง ลองประดิษฐ์บางสิ่งดูแล้วเราจะเข้าใจมากขึ้น

    - สมการของชีวิตไม่เหมือนสมการคณิตศาสตร์ แต่มันมีความคล้ายคลึงกันว่า ถ้าสมการใดที่เราคำนวณผิด มันจะผิดไปทั้งหมดเลย

  • หนังสือ The Wisdom of the Bullfrog: Leadership Made Simple ของ William H. McRaven

    - ปัญญาของอึ่งนั่นมีคุณค่าอย่างไร แล้วเราจะสามารถเป็นผู้นำได้จากอึ่งได้ไหม

    - งานหนักมีส่วนสร้างผู้นำที่ดี การมีปรัชญาในการดำเนินชีวิตจะช่วยให้เพิ่มความสำเร็จได้

    - ความอดทนอดกลั้น ไม่ใช่เพียงแต่มันคือความอดทน แต่มันเป็นการมุ่งมั่นที่จะไปต่อในทิศทางที่ใช่

    - อย่าลืมว่าคนตัวเล็ก ไม่ใช่ว่าใจต้องเล็กตาม ใจไม่มีขอบเขตที่แน่นอน มันอยู่ที่เรากำหนดมันขึ้นมา

    - บรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้งเอาไว้ให้ได้ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลาที่ยาวนานสักเพียงใด เพราะนี่คือทั้งหมดของชีวิตผู้นำ

  • มีคนมาปรึกษาว่า ตอนนี้หนูรู้สึกเหนื่อยกับงานมาก ๆ เลย เรื่องของเรื่องก็คือเพิ่งย้ายสายงานมาเริ่มทำงานฝ่ายขาย แล้วมันต้องปรับตัวเยอะ แถมหาลูกค้ายากมาก ตอนนี้เลยรู้สึกมืดแปดด้านไปหมด หนูควรพยายามทำงานนี้ต่อไปดีไหม ตอนนี้อายุ 35 ปีแล้วรู้สึกปรับตัวกับงานยากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยค่ะ

    - ความรู้สึกเหนื่อยกับงานในยุคสมัยหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่บางช่วงยุคสมัยก็อาจจะเป็นเรื่องแปลก

    - โดยมากแล้วเกือบทุกคนก็จะรู้สึกเหนื่อยกับงานอยู่แล้ว ซึ่งเราจะต้องสอบทานตัวเองว่าเรารู้สึกเหนื่อยกว่ายุคสมัยหรือเบากว่ายุคสมัย

    - เศรษฐกิจมีส่วนสำคัญอย่างมากในการที่เราจะมีความสบายหรือลำบาก ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ เพราะทุกสิ่งไม่ว่าดีหรือแย่มันจะทำให้เราหลงระเริง

    - อายุก็มีผลต่อการปรับตัว ยิ่งเราทำอะไรเดิม ๆ ซ้ำ ๆ นานเกินไป จนลืมไปว่าเราควรพัฒนาในสายงานอื่น หรือเกี่ยวโยงกันไปบ้าง เพื่อลับมีดในสมอง

    - การรับมือช่วงขาขึ้นของการขายย่อมบ่งชี้อะไรได้มากกว่า ช่วงขาลงของการขาย จงขายสินค้าและบริการที่ลูกค้ากลับไปแล้วเขาจะมีความสุข แล้วเราก็มีความสุข

  • ข้อความโพสต์จาก Ryan Holiday ได้เขียนข้อความไว้ว่า "เมื่อบุคคลใดไม่สามารถค้นหาความหมายเบื้องลึกได้ พวกเขามักจะถูกขัดขวางจากความสุขอันแท้จริง - Viktor Frankl"

    - ปัญหาของชีวิตส่วนใหญ่คือ เราไม่รู้ว่าความหมายของชีวิตมันคืออะไร

    - ความสุขในชีวิตมันอาจจะเป็นสิ่งที่ตามหาได้ยาก แต่มันอยู่ที่ตัวเราว่าเราจะจัดการอย่างไรกับความทุกข์

    - จงตามหาความหมายของชีวิต ไม่ใช่ตามหาความสุข ถ้าเราเจอสิ่งที่เราต้องการ เราจะมีความสุข

    - ชีวิตไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว อย่างน้อยที่สุดเราควรจะทำสิ่งที่เรารักไว้บ้าง เช่น กิจกรรมเสริมความสุข

    - ความทุกข์จะช่วยให้เรารับรู้ว่าตัวเรามีอยู่ได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าจมอยู่กับความทุกข์ที่เจอแต่ให้โต้คลื่นของความทุกข์ไป

  • หนังสือ Trading Beyond the Matrix: The Red Pill for Traders and Investors ของ Van K. Tharp

    - การเทรดเป็นเกมภายใน ไม่ใช่เกมภายนอก บางทีเราต้องจัดการกับความรู้สึกที่เราต้องรับมือ

    - จิตวิทยาในการเทรดก็คือ จิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการเริ่มต้นใหม่ มันคือยาสีแดงของชีวิต

    - บางครั้งชีวิตเราก็ต้องเลือกระหว่างยาสีฟ้ากับยาสีแดง แล้วยาสีแดงมันหมายถึงการยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

    - กราฟจะขึ้นหรือลง มันอยู่ที่คนมองเห็นมัน ระบบจะไม่มีอารมณ์ร่วม แต่มนุษย์มักมีอคติในการซื้อขายเสมอ

    - กลไกของตลาดสัมพัทธ์กันกับกลไกของความรู้สึกมันจึงเกิดเป็นกระบวนการสร้างที่เรียกว่า เมทริกซ์

  • มีคนมาปรึกษาว่า อยู่กับแฟนมา 4-5 ปี ช่วงปีแรก ๆ คือช่วยเหลือกันตลอด ขนาดมีลูกแล้วตอนนั้นค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นก็ยังช่วยกันเหมือนเดิม แต่พอช่วงปีที่ 3 ของการคบกันก็ไม่เคยหยิบยื่นให้เลย เพราะจ่ายค่ารถไปหมด แถมมีค่าใช้จ่ายส่วนตัว แฟนเราก็มีรับผิดชอบเรื่องลูกบ้าง แต่ส่วนใหญ่พ่อแม่แฟนจะรับผิดชอบเกือบทั้งหมดเพราะเขาเอาหลานไปเลี้ยง มีบางครั้งที่พ่อแม่แฟนก็มาขอเงินเราด้วยซึ่งแฟนเราก็ไม่เคยให้เงินเราเลย โดยรวมแล้วแฟนเราก็รับผิดชอบตัวของเขาเองแค่นั้นเลย ตอนนี้เราต้องทนเลี้ยงดูเขา ที่มีทั้งค่าห้อง ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เต็มไปหมด จนกระทั่งมันสะสม แล้วเราก็เลยตัดสินใจจะจบความสัมพันธ์ พร้อมกับหางานใหม่เพื่อออกจากวังวนนี้ เพราะว่าเราให้แฟนเราออกไปอยู่ที่อื่นเขาก็ไม่ยอม เราผิดเหรอคะ เราเหนื่อยจริง ๆ กับเรื่องนี้

    - เมื่อเวลาเปลี่ยนคนก็มักจะเปลี่ยนไป แต่ปัญหาจริง ๆ ไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น

    - ความสุขของชีวิตจะเนื่องด้วยความสมบูรณ์ของจิตใจ มากกว่าความสมบูรณ์ของครอบครัว

    - ถ้าใจของเราบอกว่าให้แยกกันอยู่ หรือว่าเลิกกันแล้วพลังนี้มันรุนแรงมาก ๆ ก็ให้ตัดสินใจตามนั้น

    - การที่เรามีลูกด้วยกัน การตัดสินใจส่วนหนึ่งก็ให้คิดถึงลูกด้วยเสมอ อย่ามองแค่ความรู้สึกของตัวเองเด็ดขาด

    - เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใคร มันเหมือนว่าเราจะไม่สามารถตอบได้ว่า ถ้ามีเงินแล้วทุกอย่างจะดีกว่านี้ไหม

  • ข้อความโพสต์จาก Ryan Holiday ได้เขียนข้อความไว้ว่า "จงเงียบ ขยันหมั่นเพียร และมีสุขภาพที่ดี มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องใช้พลังหรือทักษะอะไรมากมายในการดำเนินไป มันคือส่วนหนึ่งของสติปัญญาที่เรามีอยู่แล้ว"

    - ต้นทุนของชีวิตก็คือทรัพยากรที่เรามี และสร้างมาได้ว่าเราจะจัดการมันอย่างไร

    - ปัญหาของทุกคนที่ใช้ชีวิต มักจะเป็นปัญหาที่เราเพิกเฉยมันไปเลยจนลืมว่าเราควรทำชีวิตให้ดีด้วย

    - ความเงียบคือเงียบฟัง ไม่ใช่ว่าให้เงียบและไม่สนใจสิ่งใด เราจึงต้องหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อกรอบขอบเขตที่เราคาดหวังไว้ด้วย

    - ความสุขของวันนี้คือการที่เราทำงานหนัก เพราะเรารู้ว่ามันคือสิ่งสุดท้ายที่เราจะต้องทำมัน ไม่ใช่ว่าเราเลือกไม่ได้ แต่ต้องเลือกให้ดี

    - สุขภาพที่ดีเป็นสิ่งที่ห้ามต่อรองโดยเด็ดขาด เราจึงต้องน้อมนำความจริงให้ได้ว่า เราคือคนที่ต้องรับผิดชอบร่างกายของเราเอง

  • หนังสือ The Bezos Blueprint: Communication Secrets of the World's Greatest Salesman ของ Carmine Gallo

    - เมื่อการสนทนา ตกลงทำสัญญา รวมไปถึงการสื่อสารอาจจะเป็น 80% ของความสำเร็จในองค์กร

    - การขายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเข้าใจว่าเรามีดีอะไร แล้วมันเป็นส่วน 20% ที่เหลือของความยั่งยืน

    - ความสำเร็จของ Amazon.com เป็นเพียงแค่แง่งามหนึ่งของคนก่อตั้ง Jeff Bezos เพราะกระบวนการสร้างอยู่ที่คน

    - ลองทำมันให้ง่าย สร้างเรื่องราวให้น่าติดตาม และพยายามรวบรัดให้สั้น แต่ได้ใจความนี่เป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสาร

    - ทักษะใดเล่าจะมีคุณค่าไปมากกว่าการทำให้ชีวิตดีขึ้นได้จริง นั่นคือแสดงออกอย่างสิ่งที่เหมาะสมต่อบริบทที่เรายืนอยู่

  • มีคนมาปรึกษาว่า อยากปรึกษาหน่อยค่ะ คือทุกครั้งที่เรามีการไปเที่ยวต่างประเทศกับแฟน เราจะคิดในใจตลอดทุกครั้งว่า ถ้ากลับไทยไปคราวนี้จะเลิกแน่ ๆ ไม่ไหวแล้ว ไม่อยากทนอะไรแบบนี้ พอดีคนนี้คือแฟนคนแรก เราเลยไม่รู้ว่าจริง ๆ เราควรใจเย็นกว่านี้ ค่อย ๆ คิดหรือมันเป็นบทพิสูจน์คะ ว่าเราไปกันไม่ได้จริง ๆ คือเรื่องมันก็จะประมาณว่าเดินไปทางไหนพอแฟนเราเจอคนสวย ๆ ก็จะชมแบบลาว ๆ เสี่ยว ๆ ว่าสวยจังน้องสาวไปไหนจ๊ะ แล้วก็จะบอกให้เพื่อนมองตลอดทางว่าให้ดูคนนั้นสิคนนี้สิ เวลาพาเขาหลงทางขึ้นรถไฟผิดสถานีเขาก็โทษเราว่า เราไม่มีความสามารถ ไม่รู้เรื่อง เวลาเราอยากไปที่นั่นที่นี่ คือมันเป็นที่ขายขนมต่าง ๆ แต่เขาไม่รู้จัก เขาก็ตัดสินไปเลยว่ามันน่าเบื่อไม่น่าไปหรอก รูปภาพเขาก็ไม่สนใจเหมือนกัน เขาไม่เชื่อว่ามันจะดี โดยรวมก็จะประมาณนี้ทุกครั้งที่ไปเที่ยวเลยค่ะ จะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดีคะ

    - ถ้าหากว่ามันเป็นปัญหาที่ใจให้แก้ที่ใจ แต่ถ้ามันเป็นปัญหาที่สภาพแวดล้อมให้แก้ที่ตรงนั้น

    - อย่าลืมว่าการไปเที่ยวด้วยกันที่ต่างประเทศ หรือต่างจังหวัดเป็นจุดวัดใจที่สำคัญ หากว่าเราไม่เรียนรู้ที่จะยอมรับเราจะไม่มีความสุข

    - ปัญหาของคนส่วนใหญ่ก็คือลืมมองไปว่า เราไม่สามารถจะไปเปลี่ยนใครได้นอกเสียจากเปลี่ยนแปลงตัวเอง

    - การจะพิสูจน์ว่าคู่ของเราใช่หรือไม่อย่างไร พิสูจน์ได้ด้วยการลองไปเที่ยวด้วยกัน แล้วหลังจากไปเที่ยวเราทบทวนตัวเองบ้างไหม

    - ทั้งนี้ ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับความสัมพันธ์ บางครั้งเราก็อาจจะรู้จักคน ๆ นึงด้วยระยะเวลา หรือไม่ก็การไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันก็มี

  • ข้อความโพสต์จาก Mark Minervini ได้เขียนข้อความไว้ว่า "คำคมของวันนี้ก็คือ มันไม่มีอะไรที่เราจะไปต่อต้านการซื้อและถือหุ้น แต่มันจะต้องย้ำเตือนตัวเองว่าให้ต่อต้านการซื้อและถือหุ้นที่มันไม่มีแนวโน้มที่จะขึ้นอีกต่อไป"

    - เราถือหุ้นได้ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะต้องถือหุ้นทั้งหมดที่เราเคยซื้อ

    - หากว่าหุ้นที่เราซื้อและถือมันไม่มีโอกาส หรือแนวโน้มที่จะขึ้นน้อยมาก ให้ขายหุ้นนั้นทิ้งโดยไม่ต้องคิดมาก

    - ตั้งกรอบเวลาให้ชัดเจนว่า หุ้นที่เราจะถือต้องการถือเท่าไหร่และนานแค่ไหน ไม่ใช่ว่าซื้อทุกตัวแล้วไม่ยอมขาย

    - บางคนมีหุ้นในพอร์ตเกิน 10 ตัว แถมบางคนมีเป็น 100 ตัว ซึ่งเราจะไม่สามารถโฟกัสได้เลยว่าหุ้นแต่ละตัวนั้นมีประสิทธิภาพอย่างไร

    - แนวโน้มเป็นตัวกำหนดว่าเราควรจะซื้อและถือ หรือขายมันทิ้งไป ไม่ใช่จำนวนขาดทุนอย่างเดียว เพราะจะต้องดูว่าอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

  • หนังสือ กุญแจอ่านงบการเงิน ของ เอิญ สุริยะฉาย

    - กุญแจที่ไขไปสู่อีกประตูของความสำเร็จ ก็คือการอ่านงบการเงินอย่างละเอียด

    - ปัญหาของนักลงทุนส่วนใหญ่ ไม่ค่อยเข้าใจความแตกต่างระหว่างหนี้สินที่ดีกับหนี้สินที่เสีย

    - เราจึงต้องสังเกตงบกระแสเงินสดให้บ่อยครั้ง จำนวนวันที่เราต้องชำระหนี้คืนกับเจ้าหนี้ก็สำคัญ

    - ศึกษางบการเงินไปเรื่อย ๆ โลกของการเงินไม่มีวันจบสิ้น มันจะทำให้เรารู้สึกมหัศจรรย์ว่ามีอะไรแบบนี้ด้วย

    - หนังสือของผู้เขียนอาจจะมีความคล้ายคลึงกันมาก แต่ยังไงแล้วอ่านซ้ำหลายรอบเป็นสิ่งที่จำเป็น

  • มีคนมาปรึกษาว่า อยากมาสอบถามค่ะว่าเราควรตัดสินใจเกี่ยวกับแฟนยังไงดี คือข้อดีของแฟนคือ เขาสามารถเลี้ยงตัวเองกับครอบครัวเขาได้ ไม่ต้องเป็นภาระให้เรา แถมเขายังพร้อมที่จะสร้างครอบครัวกับเราได้ แต่เขาชอบพูดจาไม่ให้เกียรติเราต่อหน้าคนอื่น เช่น คำพูดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาพูดเล่น แบบเวลาที่เราทำอะไรผิด ก็จะพูดประมาณว่า ทำแบบนี้ทำไม ไม่รู้เรื่องเลยเหมือนเราดูโง่มากเลย หรือบอกว่าเราอ้วนไม่สวยและชอบพูดว่าตัวเองเขามีกิ๊กนะ เคยมีบ้างอะไรแบบนี้ พอพูดเยอะเราก็โมโห แฟนเราเขาก็หัวเราะชอบใจ แต่เขาก็มีมุมดี เขาช่วยเหลือเราตอนเราลำบากดูแลเอาใจใส่ พาไปเที่ยวกินข้าว ภาพอนาคตเขามีเราอยู่ในนั้นด้วย แต่เรื่องเดียวก็คือคำพูด คือปากไม่ค่อยดี แล้วเราจะรับมือกับเขาได้จริงไหมคะ

    - ถ้านิสัยส่วนตัวของเขาไม่ได้กระทบต่อความสัมพันธ์ แสดงว่าความสัมพันธ์อยู่ในเกณฑ์ดี

    - แต่ถ้าเรารู้สึกว่าความสัมพันธ์ไม่สำคัญเท่ากับความรู้สึกที่มีให้กับแฟนของเรา มันจะปัดตกไปทันที

    - บางทีชีวิตก็เหวี่ยงบททดสอบให้เราเรียนรู้ว่า การจะอยู่กินกันไปยันแต่งงานกันไม่ใช่เรื่องง่ายดาย

    - ความถูกใจก็สู้ความถูกต้องไม่ได้ เขาถูกต้องกับใจเรารึเปล่า เรื่องเล็กน้อยมองข้ามไปได้ไหม

    - การเอาใจเขามาใส่ใจเราจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ บางคนนิสัยดีจริง แต่ไม่เคยคิดจะเอาใจใส่เราเลย

  • ข้อความโพสต์จาก Mark Minervini ได้เขียนข้อความไว้ว่า "5 กฎที่เราจะสร้างชีวิตให้เป็นนักเทรด 1. เอาเงินออกมาจากบัญชี และไม่ต้องสนใจผลลัพธ์ และไม่ต้องคำนึงถึงจุดที่สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง 2. เลือกท่ามาหนึ่งท่า เลือกฟังครูสอนเพียงหนึ่งเดียว ที่จะมาเป็นผู้นำทางให้กับเราว่าเขาได้ผ่านประสบการณ์ที่โชกโชนมาบ้างไม่มากก็น้อย 3. อย่าเพิ่งรีบตัดสินว่าทำได้หรือไม่ได้ ไม่ต้องสนใจนาฬิกาที่กำลังเดินไป ไม่ต้องกำหนดแรงต้านให้กับตัวเอง แล้วก็ให้เวลาตัวเองได้ทดลอง 4. ยอมรับทุกผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นใน ณ ตอนนี้ที่มันจะมาเป็นครูสอนที่ดี จงสนใจใคร่รู้เกี่ยวกับการสูญเสียหรือผิดพลาด แล้วมองเป็นบทเรียนที่ล้ำค่า และ 5. จงฝึกซ้อมตัวเองในการเทรดว่าเป็นความสำคัญมากที่สุดลำดับต้น ๆ ในทุกวัน"

    - อย่าเพิ่งรีบที่จะประสบความสำเร็จจากการเป็นนักเทรดโดยเด็ดขาด

    - หากว่าเรารีบ ผลลัพธ์ที่น่าจะเป็นไปในทิศทางที่ควรจะเป็นนั้นจะไม่สามารถปรากฏขึ้นมาได้เลย

    - ใช้เวลา ใช้เวลา และใช้เวลา ทุกการเดินทางจำเป็นจะต้องใช้เวลา เพราะบางทีจุดเรียนรู้คือจุดเดือดที่สูงพอสมควร

    - สนใจใคร่รู้ในเรื่องที่ควรสนใจ เช่น หน้าเทรด ระบบเทรด จิตวิทยาการเทรด และจำนวนเงินที่ลงไปในแต่ละครั้งที่เราเทรด

    - เมื่อเรามีเป้าหมายชัด วันนี้ที่เราพอทำได้คือ ฝึกซ้อมในการเทรดให้มากที่สุด ใช้เงินจำนวนหนึ่งที่เราพอที่จะเสียได้ แต่ก็รู้สึกชัดถ้าเราเสียเงินไป