Avsnitt
-
หนังสือ เด็กวัดดอน ชีวิต ความฝัน และการลงทุน ของ นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
- จุดเริ่มต้นของชีวิต มักจะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะมันคือจุดเริ่มต้นของทุกสรรพสิ่ง
- การจะสร้างคน ๆ หนึ่งขึ้นมาได้ มันจำเป็นจะต้องมีการบ่มเพาะและก็ต้องรู้ว่า เราทำอะไรได้ดีด้วย
- จังหวะสำคัญอย่างมาก ถ้าไม่มีจังหวะที่ดี ชีวิตก็คงจะไม่ได้เดินมาสู่จุดหมายที่ยอดเยี่ยมไปได้เลย
- แต่อย่าลืมว่า ความรู้อาจจะไม่สำคัญเท่ากับปัญญา เมื่อเรามีปัญญาเราจะนำความรู้ไปใช้ได้อย่างถูกวิธี
- การที่เราโตมาแบบหนึ่ง แล้วลูกของเราโตมาเป็นอีกแบบหนึ่งเป็นเรื่องปกติสามัญ อย่าเอาตัวเราเป็นบรรทัดฐานทุกสิ่งอย่าง
-
มีคนมาปรึกษาว่า เราแต่งงานกับแฟนอยู่ด้วยกัน คนละบ้านกับพ่อแม่ แต่ก็ยังเป็นพื้นที่เดียวกันอยู่ พอเวลาทะเลาะกันเถียงกัน ก็จะมีคำพูดของพ่อแม่คอยพูดให้เราคิดมาก เสียใจไปกว่าเดิม จนล่าสุดพ่อแม่ส่งเรามากรุงเทพ มาอาศัยญาติอยู่ ญาติที่อาศัยอยู่ก็ชอบมาลวนลาม จนต้องมาอาศัยอยู่ที่พัทยา แล้วมาทำงานด้วย แต่เรากับแฟนก็ยังติดต่อกันอยู่ตลอด แต่พอแม่รู้ว่าติดต่อกับแฟนอยู่เขาก็ห้ามไม่ให้ติดต่อลูกเขา โพสต์ด่าเยอะแยะเต็มไปหมด เราคิดถึงลูกเรา เราจะทำยังไงดีคะ ที่ผ่านมาออกจากบ้านมาแล้ว 4 เดือน แถมก็ยังส่งเงินให้ลูก เดือนละ 5,000-6,000 บาทถึงจะไม่มาก แต่เราก็พยายามจนสุดความสามารถแล้วในตอนนี้
- ถ้าปัญหาหลักก็คือคิดถึงลูก ก็ให้โฟกัสเรื่องนี้เป็นหลักเลย ไม่ต้องใส่ใจเรื่องพ่อแม่กีดกัน
- การส่งเงินไปไม่ว่ามากหรือน้อยก็ถือว่าส่งเงินไปแล้ว นี่คือหน้าที่อันสำคัญของพ่อแม่ทุกคน
- สิ่งที่พ่อแม่ควรให้มากที่สุด ก็คือความเข้าใจ ในฐานะแม่อาจจะรักลูก แต่พ่อแม่บางคนก็รักลูกแบบผิดวิธีไป
- ไม่ว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อชนะใจคน ก็อาจจะเป็นการเทน้ำลงทะเลทราย มันไม่มีวันที่จะอุ้มน้ำเลย แต่มันจะได้กับตัวเราเอง
- เมื่อเราชนะใจตัวเองได้ ถึงแม้จะไม่มีใครรับรู้แต่ฟ้าดินก็ยังรับรู้อยู่ดี ทำหน้าที่ของตัวเองให้ได้ดีที่สุด อย่าละเลยหน้าที่ของตนก็พอ
-
Saknas det avsnitt?
-
ข้อความโพสต์จาก Ray Dalio ได้เขียนข้อความไว้ว่า "ยกตัวอย่าง เช่น อย่าพยายามที่จะพูดว่าทีมบริการลูกค้าไม่สามารถสื่อสารได้อย่างยอดเยี่ยมกับทีมวิเคราะห์ จงเน้นย้ำตรงจุดที่ว่า คนใดในทีมบริการลูกค้าไม่สามารถตอบโจทย์ รวมถึงในทางใดที่จะแก้ไขได้บ้าง ให้ลองที่จะระบุไปเลย และก็สังเกตการณ์เอาทีหลัง"
- จงระบุให้ชัดเจนถึงปัญหาที่เกิดขึ้น มิใช่ใช้ระบบเหมารวมที่จะบอกแบบกว้าง ๆ ออกไป
- ปัญหาบางอย่างเราอาจจะเหมารวมได้ แต่มันไม่ใช่การโฟกัสถึงการแก้ปัญหาอย่างตรงจุดเท่าที่ควร
- ลองดูว่าทีมใดบ้าง ที่มีดีมีเสีย แล้วเราสามารถแก้ปัญหาใดได้บ้าง เพราะไม่ใช่ว่าทั้งหมดของทีมดีหรือเสีย
- การปรับใช้ ปรับปรุง และปรับแก้ ในสิ่งที่สมควร มันจะทำให้สิ่งเหล่านั้นถูกปรับเปลี่ยนให้สมดุล
- ความสามารถของบุคคลจะทำให้ทีมนั้นสว่างไสวมากยิ่งขึ้น ถ้าเราได้บริหารคน เราจะต้องมีวิชาใช้คนเป็นด้วยเสมอ
-
หนังสือ Naked Statistics: Stripping the Dread from the Data ของ Charles Wheelan
- มันจะพอเป็นไปได้ไหมที่วิชาสถิติ เป็นวิชาที่เอาไว้คำนวณเฉย ๆ ไม่ได้มีผลทางจิตวิทยา
- บางคนเห็นค่าของตัวเลขสถิติก็หลงเชื่อไปว่า นี่คือตัวเลขที่มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ซึ่งในความจริงไม่ใช่
- ภาษาของนักวิทยาศาสตร์ที่เขามักจะใช้สื่อสาร ก็คือการใช้หลักของคำพูดเท่านั้นเอง ต้องศึกษาเพิ่มเติมด้วย
- แล้วเป้าหมายหลักของสถิติที่พยายามประโคมข่าวออกสื่อ เพื่อให้เราคิดตามกับตัวเลขโดยไม่ได้ดูกลุ่มตัวอย่างเลย
- ทั้งนี้ บางกลุ่มตัวอย่างไม่สามารถนำมาเป็นมาตรวัดได้ เช่น การหากลุ่มตัวอย่างเฉพาะกลุ่มที่มีความคิดคล้ายคลึงกัน
-
มีคนมาปรึกษาว่า ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ คุณแม่ของหนูอายุ 45 ปีได้แล้ว แต่คุณแม่อยากจะไปทำงานที่เกาหลี แต่ตอนนี้คุณแม่มีที่ทำงานค่อนข้างมั่นคงอยู่แล้ว แต่ก็ยังอยากจะไปทำงานที่ต่างประเทศอยู่ดี ซึ่งความรู้สึกหนูคือแม่คุยกับผู้ชายคนนึงเชิงชู้สาว ที่ทำงานอยู่เกาหลีด้วย เลยไม่รู้ว่าอันนี้อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านอยากไปรึเปล่า คือบางทีท่านพูดเรื่องนี้กับลูก ๆ ทุกคนซึ่งหนูก็ไม่แน่ใจว่าน้อง ๆ ว่ายังไงบ้าง แต่หนูก็พูดไปกับแม่หลายรอบแล้วว่า จะไปทำไมอายุเยอะแล้ว หนูก็ใกล้จะเรียนจบแล้วด้วย ซึ่งไม่กี่วันมานี้แม่ก็พูดเรื่องนี้อีก แต่คำตอบหนูยังเหมือนเดิม จนตอนนี้หนูก็ไม่รู้จะหาคำตอบไหนมาตอบอีกแล้ว ถ้าคุณแม่ถามเรื่องนี้อีกจะตอบท่านยังไงดีคะ ตอนนี้หนูเรียนอยู่ปี 4 นะคะ แล้วก็อยู่ในช่วงฝึกงานอยู่
- เรื่องของความรู้สึก มันอาจจะไม่เกี่ยวว่าอายุเท่าไหร่ ใจคนเราไม่ได้แปรผันตรงกันกับอายุ
- เหตุและผลสำคัญที่สุด บางทีการไปทำงานก็เป็นเหตุผลนึง แต่การอยากมีความสุขในชีวิตก็อาจจะเป็นอีกเหตุผลนึง
- ถ้าใจของคน ๆ นึงต้องการสิ่ง ๆ หนึ่งเราคงจะไปห้ามอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเป็นคนในครอบครัวก็ห้ามไว้ให้ถึงที่สุดจะดีกว่า
- คนอื่นหรือสิ่งอื่นที่เราไม่มั่นใจว่าจะดีจริง ๆ ไหม ก็อย่าเพิ่งไปปักใจเชื่อ บางคนก็หลงลืมตัวไปว่า ใครจะมารักกับคนที่ยังไม่เคยเจอกันจริง ๆ เลย
- ทั้งนี้ การเตือนสติจะต้องอาศัยความต่อเนื่อง อย่าลืมชักแม่น้ำทั้งห้ามาดึงประเด็นถึงข้อเสีย และโทษของการไปทำงานที่ต่างประเทศด้วย
-
ข้อความโพสต์จาก James Clear ได้เขียนข้อความไว้ว่า "ทำสิ่งเดียวซ้ำทุกวันมันจะทำให้กลายเป็นการกระทำทบต้น"
- พลังงานทั้งหมดจะอยู่ในจุดที่ใช่เสมอ เราจงทำตัวให้เป็นแหล่งสะสมพลังงาน
- การทำซ้ำเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ สรรพสิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ มันอยู่ที่ตัวเราเอง
- ไม่มีใครกำหนดชีวิตของเราได้ นอกเสียจากตัวของเราเอง จงตั้งใจใช้ชีวิตต่อไป
- อุปสรรคเป็นเพียงแค่การขัดขวางของพลังงานใหม่ ซึ่งมันไม่ได้จะอยู่แบบนั้นตลอด
- ทั้งนี้ การกระทำแบบทบต้นก็คือการทำซ้ำจนเกิดกระบวนการสร้างที่สลักสำคัญต่อชีวิต
-
หนังสือ Elite: High Performance Lessons and Habits from a Former Navy SEAL ของ Nick Hays
- การฝึกฝนแบบหน่วยรบพิเศษนั้นเป็นอย่างไร เราจำเป็นจะต้องฟังไหม
- ทีมเป็นสิ่งที่สำคัญ มันเหมือนประมาณว่าเราจะทำคนเดียวไม่ได้ เพราะถึงจุดนึงก็ต้องพึ่งพาคนอื่น
- เมื่อเราปรับใช้กับการทำธุรกิจ เราก็จะได้ทักษะในการปรับตัว เปลี่ยนแปลง รวมไปถึงพัฒนาต่อยอดไปได้
- อย่าลืมเด็ดขาดว่า หน้าที่ของนักธุรกิจคือบริหารธุรกิจ และการมองภาพรวมให้ออก เปรียบเสมือนการดูแลคนในทีม
- ทั้งนี้ ชีวิต งาน เงิน รวมไปถึงส่วนอื่นของชีวิต ล้วนเกี่ยวข้องกันเป็นเนื้อเดียวกันเสมอ ไม่แยกออกจากกัน
-
มีคนมาปรึกษาว่า สวัสดีค่ะ ผู้ชายที่มีข้อเสียทุกข้อเช่น เจ้าชู้ ติดผู้หญิง ติดเกมส์ ติดการพนัน อารมณ์ร้ายโมโหง่าย ทำร้ายข้าวของ ทำร้ายร่างกายเมีย แถมยังเป็นลูกแหง่ติดแม่ ทำตัวเป็นเด็กฟ้องแม่ให้แม่โอ๋ตลอด ดูเขาไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ให้พึ่งพาได้เลย อนาคตมืดมนทุกทาง แต่ละวันหาแต่หนทางให้ตัวเองหลุดพ้น แค่อยากระบายและอยากมาขอกำลังใจค่ะ ขอบคุณค่ะ
- ปัญหาของจิตใจคนมักจะแก้ไขยาก เพราะแต่ละคนเลือกวิถีชีวิตแตกต่างกัน
- ถ้าเราไม่ชอบก็ขอให้เราระลึกรู้ให้ชัดว่าไม่ชอบเพราะสิ่งใด ไม่ใช่แค่ไม่ชอบก็บ่นไปเรื่อย ๆ ก็จะไม่ค่อยดี
- บางคนเขาก็ต้องการพื้นที่ในการใช้ชีวิตเยอะ มันเหมือนว่าเราก็แค่ใช้ชีวิตตามบริบทที่ได้รับมาแค่นั้นเอง
- หากว่าเรามอบพื้นที่ให้กับผู้คนได้ก็จงทำแบบนั้น แต่ถ้าเราให้ไม่ได้ก็ต้องปล่อยวางไป ไม่งั้นเราจะแบกทั้งหมดบนบ่าตัวเอง
- ความสมดุลคือคำตอบ บางเรื่องต้องยึดไว้เพื่อเรียนรู้ พอถึงเวลาหนึ่งก็ต้องหัดเข้าใจ และยอมรับมันไปด้วย
-
ข้อความโพสต์จาก Robert Greene ได้เขียนข้อความไว้ว่า "เมื่อคุณแสดงออกถึงพรสวรรค์ที่คุณมีให้กับโลกใบนี้ได้เห็น มันจะมีความรู้สึกที่สับสนวุ่นวายที่เป็นเรื่องปกติสามัญ ไม่ว่าจะเป็นความไม่พอใจ อิจฉาริษยา รวมไปถึงความไม่ปลอดภัยต่าง ๆ ที่ผู้คนมอบให้กับคุณ แต่กระนั้นคุณจึงไม่จำเป็นจะต้องไปเสียเวลากับความรู้สึกเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ที่ผู้คนนั้นพูดถึงคุณ"
- เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาของผู้คนที่เขากำลังตัดสินเราได้เลย
- ปัญหาของเราก็คือ เราต้องการเป็นที่ยอมรับ แต่บางทีก็ไม่ได้มีคนยอมรับในตัวเราเท่าที่เราต้องการ
- ตัวเราเองย่อมจำเป็นต้องยอมรับตัวตนของตัวเองก่อน มิใช่ไปเรียกร้องให้ผู้คนนั้นมายอมรับในตัวเรา
- เมื่อเราก้าวขาเดินออกนอกบ้าน นั่นคือความท้าทายของการเดินทางแล้ว จงเตรียมตัวเตรียมใจรับทุกสิ่งที่เข้ามา
- ทั้งนี้ ชีวิตไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัวว่า เราต้องเป็นที่ยอมรับจากผู้คนในสังคม แค่เริ่มต้นรู้จักตัวเองก็จะเริ่มพอใจมากขึ้นแล้ว
-
หนังสือ How to Invest: Masters on the Craft ของ David M. Rubenstein
- The Carlyle Group มีสินทรัพย์อยู่ภายใต้การบริหาร $435 billion in assets
- แล้วก็หลักการบริหารแบบภาพใหญ่ก็คือ การลงทุนระยะยาว เพื่อลดการผันผวนแบบวงกว้าง
- บางครั้งการกระจายความเสี่ยงก็จำเป็น แต่มันไม่ใช่กระจายแค่สินทรัพย์ มันจะต้องรวมไปถึงสภาพมวลรวม ณ ขณะนั้นด้วย
- นักลงทุนมากมายต้องการคำตอบว่า ใครจะเป็นผู้ถือครองสินทรัพย์มากกว่าคนอื่น นั่นจึงเป็นการแย่งชิงในเรื่องทักษะของการถือครอง
- บทสนทนาแบบถาม-ตอบ ย่อมได้อะไรมากกว่าการเล่าเรื่องเฉย ๆ เพราะมันคือการเรียนรู้ที่มาจากคำถามว่า คุณภาพของคำถามสำคัญไฉน
-
มีคนมาปรึกษาว่า เราคบกับแฟนมานานแล้วเกือบ 10 ปี มีลูกด้วยกันแล้ว พอมาปีนี้เราเป็นซึมเศร้า เคยจะฆ่าตัวตายมาแล้ว 1 ครั้ง แล้วเราก็พยายามทำตัวให้ปกติ เอาลูกเป็นเป้าหมาย แต่ใจเรามันไม่มีความสุขเลย ความสัมพันธ์กับแฟนก็ยิ่งห่างกันไป กลายมาเป็นเราเป็นคนเงียบ ๆ ชอบอยู่คนเดียว ไม่จู้จี้ ไม่โทรตาม อยู่บ้านเงียบ ๆ สบายใจดีเหมือนกัน จนเมื่อวาน เราทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อย แต่คำพูดที่ด่าก็รุนแรงมาก เราเสียความรู้สึกจนบอกเลิกแฟนไป เพราะเรารู้สึกว่าอยู่คนเดียวสบายใจกว่า อยากรู้ว่าเราเห็นแก่ตัวไหม ที่ทำให้ครอบครัวพังเพราะความรู้สึกของตัวเอง เหมือนแฟนก็รู้ว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า แต่ก็ยังพูดว่าถ้าไม่มีลูกกับมึงกูเลิกไปนานแล้วประมาณนี้ค่ะ
- โรคซึมเศร้ากับอาการหมดรัก มันคนละความรู้สึกกัน ให้ลองแยกสองสิ่งนี้ก่อนอย่างแรก
- เหมือนว่าการที่สามีบอกว่า ถ้าไม่มีลูกด้วยกันก็เลิกกันไปแล้ว ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดีมากกว่าไม่ดีก็ได้
- เมื่อคำว่าครอบครัวมันค้ำคอเราอยู่ มันก็จึงเป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับว่า ความรับผิดชอบมันสำคัญมากกว่าความสุขมวลรวม
- บางครั้งชีวิตก็ต้องเสียสละบ้าง ความเห็นแก่ตัวคือเรามักจะคิดว่า สิ่งใดเป็นภาระ ปัญหา หรือความทุกข์แล้วเราจะปัด ๆ มันทิ้งไป
- ชีวิตไม่ได้ง่ายขนาดที่ว่าเราเลือกตัดสินใจทางใดทางหนึ่ง แล้วเราจะถอนตัวทีหลัง บางเรื่องก็ไม่สามารถถอนตัวได้
-
ข้อความโพสต์จาก Simon Sinek ได้เขียนข้อความไว้ว่า "การตลาดที่ไม่ดีจะนำเสนอแค่โปรโมชั่น แต่การตลาดที่ดีจะนำเสนอมูลค่าของสิ่งนั้น"
- เมื่อการตลาดเป็นแค่แง่มุมหนึ่ง มันอยู่ที่เรานำเสนอว่าเราจะนำเสนอออกมาอย่างไร
- คนบางคนเน้นอวดความร่ำรวย แต่คนบางคนกลับวางแผนที่จะนำเสนอคุณค่าของตนเอง
- ไม่มีอะไรที่เราจะให้ได้ไปมากกว่า ความหมายของสิ่งที่เรามีอยู่ในตัวเราเอง มันคือคุณค่าที่แท้จริง
- ส่วนของสิ่งที่เราต้องการนำเสนอนั้น มันอาจจะหมายถึงพื้นฐานของความคิดเดิมเราว่า เราเป็นคนอย่างไรก็ได้
- ทุกคนบนโลกมีวิถีทางเป็นของตัวเอง มันไม่มีผิดมีถูก มีแต่คนจะให้คะแนนกับเรา นั่นแหละอาจจะหมายถึงเราต้องโน้มเอียงตาม
-
หนังสือ ตีแตก กลยุทธ์การเล่นหุ้นในภาวะวิกฤต ของ นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
- การตีแตกคือ อยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่เรามั่นใจอย่างเต็มที่แล้วว่า ชัวร์แล้วลงหมดหน้าตัก
- ถ้าเราต้องการตีแตกในการลงทุน เช่น หุ้น หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ก็จำเป็นจะต้องรับความเสี่ยงให้ได้
- เมื่อความเสี่ยงที่แท้จริงอยู่ที่จังหวะเวลามากที่สุด นักลงทุนหุ้นที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่อาศัยจังหวะเวลา
- ความปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จในการลงทุนเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ไฟฝันเราต้องไม่มอดดับไประหว่างเวลาด้วย
- ทั้งนี้ ความสำเร็จกับความล้มเหลวอาจจะอยู่ใกล้ ๆ กัน ซึ่งไม่ได้อยู่ที่เราทั้งหมด แต่อยู่ที่บริษัทที่เราประเมินด้วยว่าเป็นอย่างไร
-
มีคนมาปรึกษาว่า ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ ปัจจุบันทำงานที่นึงแล้วรู้สึกว่าจับฉ่าย ทำงานตามสั่ง เหมือนทำงานย่ำอยู่กับที่ค่ะ ซึ่งงานเข้ามาทุกวันเลยค่ะ พอตั้งใจทำก็ไม่ตรงใจ เปลี่ยนหลายรอบมากต่อชิ้นงาน เป็นแบบนี้มาตลอด 10 เดือนแล้วค่ะ รู้สึกใช้คำว่าอดทนเยอะมาก จนทำให้จะกลายเป็นโรคซึมเศร้า ตอนนี้รู้สึกว่าเราไม่ไหวแล้วค่ะ ใจมันท้อมาก มันเศร้าทุกวัน ไม่เป็นคนที่มีความสุขแบบเดิมเลย มันรู้สึกแน่นอึดอัดในใจค่ะ และรู้สึกอยากลาออกมานานมากแล้ว ความอดทนมันหมดไปเลย งานที่ถาโถมเข้ามาก็เยอะมากขึ้น ไม่มีวี่แววจะจบด้วยค่ะ เลยลองหางานใหม่ ก็มีไปสัมภาษณ์งานใหม่บ้าง เราควรรู้สึกผิดไหมคะ ที่สมัครงานใหม่แล้วเราก็รู้สึกอยากออกจากที่เดิมนี้ อยากขอแนวทางให้ด้วยค่ะ
- งานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มันอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตแต่มันคือการใช้ชีวิต
- ถ้าเรารู้สึกหมดไฟ หรือว่าหมดแรงกับงานที่ทำ ก็ให้กลับมาถามตัวเองว่า เราทำงานไปเพราะอะไร
- เงินคือสิ่งที่สำคัญก็จริง แต่เงินไม่ใช่สิ่งหล่อเลี้ยงหัวใจ แต่มันช่วยแค่หล่อเลี้ยงร่างกายให้รอดต่อไปได้
- โจทย์ที่ใหญ่กว่างาน คือชีวิตเราปรารถนาไปยังทิศทางใด กำหนดทิศทางของชีวิตก่อนแล้วค่อยเลือกงานทีหลัง
- ทั้งนี้ บางทีชีวิตอาจจะเหวี่ยงเราไปยังจุดที่เราไม่เข้าใจ ไม่ต้องรีบเข้าใจในจุด ๆ นั้น แต่ถ้าออกมาแล้วค่อยรีวิวก็ยังทัน
-
ข้อความโพสต์จาก Morgan Housel ได้เขียนข้อความไว้ว่า "เราทุกคนกำลังสร้างบางสิ่ง ในขณะเดียวกันกับที่เรากำลังเดินทางไป"
- ทุกขณะจิตเรากำลังสร้างบ้างสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นคิด พูด หรือกระทำก็ตามแต่
- ปัญหาของคนส่วนใหญ่ก็คือไม่รู้ว่า ตัวเราเองกำลังสร้างบางสิ่งในตอนนี้
- อย่าเพิกเฉยการกระทำของตัวเองอย่างเด็ดขาด เพียงเพราะเราไม่ได้ตั้งใจทำมัน
- คนที่ตั้งใจกับไม่ตั้งใจ ต่างกันที่ผลลัพธ์ เช่น ความเข้มข้นของเรื่องราว แต่ยังไงก็ต้องปรากฏคล้าย ๆ กันอยู่ดี
- การทำเป็นไม่รับรู้สิ่งที่ตัวเองได้ใช้ชีวิตมา ไม่ใช่การหลบเลี่ยงปัญหาที่ดีที่สุด จงใส่ใจทุกการกระทำเสมอ
-
หนังสือ Fast Asleep: How to get a really good night's rest ของ Michael Mosley
- ความเป็นหมออาจจะไม่สำคัญเท่ากับ การมีประสบการณ์เกี่ยวข้องกับสายอาชีพนั้น ๆ เลย
- ยิ่งมีความรอบรู้มากก็ยิ่งเข้าใจว่า การนอนหลับจึงไม่ใช่การบังคับ แต่มันคือการปล่อยใจไม่ให้คิด
- อยากนอนไม่ได้นอน ไม่อยากนอนกลับได้นอน นี่คือวิถีชีวิตหลักของการตระหนักรู้ถึงความเข้าใจ
- โรคอ้วน รวมไปถึงโรคเบาหวานมีส่วนสำคัญต่อการนอนหลับอย่างมาก แปลตรงตัวก็คือน้ำหนักตัวมีผลต่อการนอนหลับ
- นอนให้ตรงเวลา ตื่นให้ตรงเวลา พยายามรักษาเวลานั้น ๆ อยู่เสมอ ถึงแม้ว่าเวลาของการเดินทางท่องเที่ยวจะต่างกันก็ตามแต่
-
มีคนมาปรึกษาว่า ขอกำลังใจหน่อยค่ะ กำลังท้อกับตัวเองตอนนี้มากเลยค่ะ รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่าง ทำอะไรก็ไม่สำเร็จเลย มีวิธีแก้ยังไงได้บ้างคะ
- ถ้าเราท้อแท้ หรือสิ้นหวังกับปัญหาของชีวิต ให้เราถามตัวเองว่ายังมีอะไรที่เราจะทำได้อีกไหม
- ไม่รอเวลา หรือรอคอยโอกาส ปัญหาของชีวิตคือจุดทะยานขึ้นไปยังจุดที่ดีขึ้น ถ้าเราปรับมุมมอง
- ไม่มีใครได้เรื่องตั้งแต่เริ่มต้น เราทุกคนขึ้นเวทีชกมวยตั้งแต่เรายังไม่ได้ฝึกซ้อม แต่เราล้มบ่อยจนลุกขึ้นสู้
- ใจนักสู้จำเป็นจะต้องมีอยู่ในตน ปลูกขึ้นในจิตวิญญาณด้วยเสมอ ไม่ใช่ท้อแท้กับทุกความล้มเหลว
- ไฟอันลุกโชนคือไฟฝันที่เราต้องมีในชีวิตประจำวัน สังเกตว่าตัวเราเองชอบทำอะไร แล้วทำอะไรได้บ้าง ถ้าไม่มีก็หาเลย
-
ข้อความโพสต์จาก Peter Mallouk ได้เขียนข้อความไว้ว่า "ฉันสามารถที่จะใช้เงินซื้อเกือบทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ตามหลักแล้วเงินไม่สามารถซื้อเวลาให้เพิ่มขึ้นได้ - วอร์เรน บัฟเฟตต์"
- เงินซื้อของได้หลายอย่างมาก แต่ไม่สามารถซื้อทรัพยากรหนึ่งที่เรียกว่าเวลาได้เลย
- เวลาเป็นของที่ใช้แล้วหมดไป เวลาแลกเงินได้ แต่เงินแลกเวลาไม่ได้ นั่นคือความแตกต่าง
- ผู้คนที่มั่งคั่งส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกเวลามากกว่าเงิน เพราะในตอนท้ายแล้วมันจะยั่งยืนกว่า
- แต่ก็แน่นอนว่า คนที่เลือกใช้เวลาแลกเงิน ก็ต้องหาจุดคุ้มทุนของเวลาให้เจอว่า เสียเวลาแล้วได้เงินแค่ไหน
- ทั้งนี้ อย่าลืมหาจุดคุ้มค่าของเวลาให้เจอ เพราะมันคือทั้งหมดของชีวิตเรา ไม่เสียเวลาและไม่เสียเงินกับสิ่งที่ไม่ก่อเกิดประโยชน์
-
หนังสือ The Perfectionist's Guide to Losing Control: A Path to Peace and Power ของ Katherine Morgan Schafler
- นักจิตบำบัดที่เน้นไปในเรื่องของคนที่คิดว่าต้องสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง
- แน่นอนว่าโรคหนึ่งย่อมเกิดขึ้นถ้าเราอยากจะดีไปเสียทุกอย่าง นั่นคือโรคดีพร้อม
- ความดีพร้อมมีอยู่จริง แต่เป็นแค่ช่วงจังหวะหนึ่งของชีวิตไม่ได้เป็นไปตลอด
- การรับมือกับการสูญเสียความสมบูรณ์แบบ ก็จะเป็นการเยียวยาโรคดีพร้อมว่ามันไม่ใช่จะดีไปตลอด
- นิยามคำว่า ไร้ซึ่งความผิดพลาดนี้อาจจะเป็นคำนิยามที่ดูกว้าง ขอให้เราโฟกัสในบริบทที่เราทำได้ก็พอแล้ว
-
มีคนมาปรึกษาว่า ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ เราแต่งงานกับสามีมา 5 ปี มีความสุขมาตลอด เดือนนี้เขารับพ่ออายุ 80 ปี มาอยู่ด้วย เรากับพ่อเขาเข้ากันได้ดีค่ะ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า สามีไม่ค่อยช่วยค่าใช้จ่ายอะไรเลย ใช้จ่ายแบบเดือนชนเดือน ไม่วางแผนการเงิน ลำพังตัวเขาเองก็แย่อยู่แล้ว แต่เราก็ยังพอช่วยสามีได้บ้าง พอมีพ่อเขามาอยู่มันเลยทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เราก็ต้องจ่ายค่าอาหารกับค่าของใช้ส่วนตัวพ่อเขาด้วย กลายเป็นว่าเราต้องดูแลผู้ชายถึง 2 คน แล้วถ้ารวมตัวเราก็กลายเป็น 3 คน นอกจากเงินเดือนที่เรากันไว้ใช้จ่ายประจำเดือนแล้วยังไปเบียดเบียนเงินเก็บของเรา ขอกำลังใจหน่อยค่ะว่าจะจัดการกับความรู้สึกยังไงดี
- ความสุขของชีวิตจะเนื่องด้วยจากการมอบให้มากกว่าการได้รับมา
- แต่ในความเป็นจริง ถ้าเราไม่มีให้จริง ๆ ก็ให้เท่าที่ให้ได้จะดีที่สุด
- ไม่ต้องฝืนมาก ถ้าเราคิดว่าการฝืนนี้มันทำให้เราไม่มีความสุขในระยะยาว ต้องประเมินสถานการณ์
- ชีวิตไม่มีคำตอบตายตัวว่า เราจะทำอย่างไรแล้วผลลัพธ์มันจะออกมาดีที่สุด เพียงแต่เราต้องเข้าใจว่าฐานะการเงินเราเป็นอย่างไร
- เดอะแบกอาจจะเป็นคำตอบว่าเราต้องทำ เมื่อถึงเวลาอันสมควร เตรียมตัวให้ดี ๆ ว่าวันนี้เราต้องแบกอะไรบ้าง อย่าลืมพักใจด้วยการมองไกลดู
- Visa fler