Avsnitt
-
Saknas det avsnitt?
-
พยายามฝึกการปฏิบัติอย่าเว้นวรรค ฝึกตั้งแต่ตื่นจนหลับ ฝึกไปเรื่อยๆ มีสติรู้กายรู้ใจอย่างที่มันเป็นไปเรื่อยๆ ดูกายมันทำงาน ดูใจมันทำงาน อย่างตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบอารมณ์ปุ๊บ เกิดสุข เกิดทุกข์ เกิดกุศลอกุศล รู้ทัน อันนี้แบบหนึ่ง อีกแบบหนึ่งก็คือตาหลงไปดูรูป รู้ทันตา หลงไปฟังเสียง หลงไปดมกลิ่น หลงไปลิ้มรส หลงไปรู้สัมผัสทางกาย รู้ทัน ใจเราหลงไปคิด รู้ทัน นี่รู้พฤติกรรมของจิตที่เกิดดับทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ฉะนั้นจะดูจิตสุข จิตทุกข์ จิตดี จิตชั่ว อันนี้จิตเกิดร่วมกับเจตสิก อย่างนี้ก็ได้ จะดูจิตที่เกิดดับทางทวารทั้ง 6 ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็ได้ แล้วก็เห็นไตรลักษณ์เหมือนกัน หัดรู้หัดดูไปเรื่อยๆ แล้วเราก็จะได้ของดี อย่าเว้นวรรค มีเวลาเมื่อไรปฏิบัติทันที ไม่เอาเวลาไปนั่งเล่นอินเทอร์เน็ต นั่งคุยตลอดเวลา ฟุ้งซ่าน ไม่ได้เรื่องหรอก หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 11 มกราคม 2568
-
เราทำอะไรเราก็จะได้ผลอย่างนั้น เราก็พยายาม ไหนๆ เราก็เจอศาสนาพุทธแล้ว ก็มาสร้างคุณงามความดีให้ตัวเอง ทำทานให้เป็น ถือศีลให้เป็น ทำสมาธิให้เป็น เจริญปัญญาให้เป็น สะสมไป ถ้าบุญวาสนาบารมีพอ เราก็จะบรรลุมรรคผลในชีวิตนี้ ถ้าไม่พอ ชาติหน้าจะภาวนาง่ายกว่านี้ เพราะจิตมันคุ้นเคยกับการปฏิบัติแล้ว อย่างจิตมันคุ้นเคยกับการถือศีลอย่างนี้ มันก็ถือศีลง่าย จิตมันคุ้นเคยการทำทาน มันก็ทำทานได้ง่าย จิตมันเคยฝึกสมาธิ มันก็ทำสมาธิง่าย จิตมันเคยเดินวิปัสสนา มันก็เกิดวิปัสสนาญาณง่าย ของฟรีไม่มี ทั้งหมดอยู่ในกฎแห่งกรรม คนที่เขาง่ายนี่เพราะเขาทำมาก่อนแล้ว เขาลำบากมาแล้ว ของเราถ้ามันรู้สึกยังไม่ง่ายก็อดทน ไม่ใช่มันยากเกินไปแล้วไม่ทำ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 5 มกราคม 2568
-
ตรงที่จิตมันปรุงแต่งของมันตามธรรมชาติธรรมดา อันนั้นไม่ต้องไปห้ามมัน ไม่ผิด จิตมันจะปรุงสุขก็รู้เอา จิตมันจะปรุงทุกข์ก็รู้เอา จิตมันปรุงไม่สุขไม่ทุกข์ก็รู้เอา จิตมันปรุงกุศลก็รู้ มันปรุงโลภ ปรุงโกรธ ปรุงหลง ปรุงฟุ้งซ่าน ปรุงหดหู่ มันจะปรุงอะไรก็เรื่องของมัน หน้าที่ของเรามีแค่ตามรู้ไป ถ้าเรารู้มันด้วยจิตใจปกติ ฝึกเรื่อยๆ จนใจเราเป็นปกติ เราจะแยกแยะความปรุงแต่งออกได้ง่าย ถ้าจิตเราไม่เคยประภัสสรเลย ไม่เคยเป็นจิตธรรมดาเลย เราเข้าไปปรุงแต่งตลอด เราก็จะไม่รู้จักจิตธรรมดา พอเราไม่รู้จักจิตธรรมดาจะแยกไม่ออกว่า นี้เป็นสิ่งที่แปลกปลอมเข้ามาสู่จิต หรือว่าเป็นอะไรกันแน่ ถ้าเรามีจิตที่ธรรมดา เราจะเห็นสิ่งที่แปลกปลอม ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่ถ้าเราไปปรุงแต่งจิต จิตเราปนเปื้อนแล้ว มันถูกความปรุงแต่งที่เราจงใจทำเข้าไปปนแล้ว เวลามีความปรุงอื่นผ่านมา เราแยกไม่ออกแล้ว ไม่รู้ว่าอันนี้เป็นจิตปรุงแต่ง หรือว่าเราไปปรุงแต่งจิต 2 อันนี้ไม่เหมือนกัน จิตมันปรุงกิเลสกับกิเลสมันปรุงจิต ถ้าเราสังเกตให้ดีมันจะมี 2 อัน อันหนึ่งเราไม่ได้เจตนาที่จะปรุงแต่ง แล้วความปรุงแต่งมันเกิดขึ้น มันปรุงไปด้วยความเคยชินของจิต หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 4 มกราคม 2568
-
ถ้าเราจะภาวนาอย่าหลงโลก โลกมันเหมือนน้ำ อย่างเหมือนมีท่อนไม้สักท่อนหนึ่งเป็นท่อนไม้เปียกน้ำ เอามาจุดไฟไม่ติดหรอก ถ้าเราเป็นนักปฏิบัติแต่ทำตัวเป็นท่อนไม้แช่น้ำ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเท่าไร เหนื่อยเปล่า บางคนก็เป็นท่อนไม้สดๆ อยู่ในน้ำด้วย ท่อนไม้สดๆ ก็เหมือนคนทั่วๆ ไป จิตไม่คุ้นชินกับธรรมะเลย คุ้นชินแต่หลงโลก แล้วก็ยังปล่อยตัวปล่อยใจให้หลงโลกเข้าไปอีก มันก็หลงโลกมากขึ้นๆ บางคนเห็นว่าชีวิตนี้ไม่แน่นอน ก็พยายามจะมาปฏิบัติธรรม พิจารณาตัวเองเราก็ยังเหมือนต้นไม้สดๆ อยู่ ถ้าเรายังแช่น้ำอีก โอกาสที่จะเอาต้นไม้นี้มาจุดไฟให้เกิดประโยชน์ได้ก็ไม่มี ก็พยายามปลีกตัวเป็นไม้สดอยู่บนบก ไม่ยอมไปแช่น้ำ พวกนี้ก็ดีขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ทีนี้บางคนก็เห็นตราบใดที่จิตเรายังชุ่มด้วยกาม เรายังหาความสุขความสงบที่แท้จริงไม่ได้ ก็มาลงมือภาวนาทำสมาธิทำวิปัสสนาไป ฝึกไปช่วงหนึ่งใจจะเริ่มแห้ง พวกเปียกคือใจมันเปียกด้วยกาม ยังติดในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสอยู่ ยังติดโลกอยู่ ส่วนคนที่ภาวนาใจจะแห้งๆๆ แล้วยิ่งถ้าภาวนาแบบเจริญสติเจริญปัญญาไปมากๆ จิตไม่ได้ทรงฌานมันจะยิ่งแห้งมาก ภาวนาแล้วแห้งผากเป็นสุขวิปัสสกะ กิเลสก็เหือดแห้ง หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 1 มกราคม 2568
-
จับหลักให้แม่นๆ ถ้าเราต้องการทำความสงบ ให้น้อมจิตไปอยู่ในอารมณ์อันเดียว ที่มีความสุขอย่างต่อเนื่อง ตัวที่เป็นพระเอกในการทำสมถะ คืออารมณ์กรรมฐาน ที่เราถนัด ที่เราพอใจ อยู่แล้วสบายใจ ตัวนี้เป็นพระเอกคือตัวอารมณ์ ฉะนั้นเราก็เอาจิตเรา ไประลึกรู้อารมณ์อันนั้นไปเรื่อยๆ สงบก็ช่าง ไม่สงบก็ช่าง เรารู้อารมณ์ที่มีความสุขอันนั้น ไม่นานหรอกก็จะสงบ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 31 ธันวาคม 2567
-
เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่จะเผชิญทุกสิ่งทุกอย่าง โดยการฝึกกรรมฐาน อ่านจิตตัวเองให้เป็น แล้วเราอยู่ในภาวะอันไหน สิ่งแวดล้อมทั้งหลาย ปรากฏการณ์ทั้งหลาย จะไม่กระเทือนเข้ามาถึงใจเรา จิตใจเราจะสงบจิตใจเราจะมั่นคง จิตใจเรามีความสุขอยู่ในตัวของตัวเอง ไม่ขึ้นกับฤดูกาล ดิน ฟ้า อากาศ ไม่ขึ้นกับระยะเวลาอะไรทั้งสิ้น ฝึกเอา อ่านจิตตัวเองไป หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 29 ธันวาคม 2567
- Visa fler