Avsnitt
-
บางทีสิ่งที่เราได้เรียนรู้เมื่อหมดปี
คือเราเรียนรู้ว่า เราไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย -
ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วมันเหงาขนาดนี้
-
Saknas det avsnitt?
-
น่าจะเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องธรรมดา
ที่เมื่อใครสักคน หรือหลายคนหายไปจากชีวิตเรา
แล้วมันทำเรารู้สึกดี หรือบางทีรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก -
Q&A- ทำไมคนที่ยังไม่สำเร็จ ถึงดูเป็นคนล้มเหลวในสายตาคนอื่น
- รู้สึกเสียใจกับอดีต ทำไงดี
- รู้สึกเฉยๆ กับทุกเรื่อง ทำยังไงดี
- ชีวิตผู้ใหญ่ในตอนนี้ต่างกับเราเมื่อตอนเริ่มต้นเป็นผู้ใหญ่ยังไง
- เริ่มต้นชีวิตวัยทำงานยังไงให้มีความสุข
- ช่วยแนะนำแรงบันดาลใจในการมีชีวิตอยู่ต่อหน่อย -
แต่ก่อนไม่เคยเข้าใจเลยว่า เป็นตัวเองมันดียังไง
เพราะเราถูกหล่อหลอมให้เอาคนอื่นเป็นแบบอย่าง
นั่นรึเปล่าที่ทำให้เราไม่ค่อยให้ค่าตัวเองเท่าไหร่เลย
มันไม่มีใครเหมือนกันบนโลกใบนี้
แล้วการที่มันไม่เหมือนกันนั่นแหละที่ทำให้การเป็นตัวเองเป็นคนพิเศษ
คนที่ไม่สามารถหาได้ที่ไหนแล้ว
การที่ใครสักคนได้รู้จักเรา
การที่เราจะได้รู้จักใคร
ผมว่ามันคือการได้พบคนพิเศษในแบบต่างๆ
การพยายามทำตัวเองให้ดีเด่นเหมือนคนอื่น
แล้วได้รับคำชมว่า เธอดี เธอเก่งเหมือน คนนี้เลย
การเหมือนคนอื่น
อาจจะไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจสักเท่าไหร่
แต่ถ้าเรารู้สึกดีกับตัวเองกับการได้เป็นตัวเอง
แบบที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน
ผมว่ามันก็คือที่สุดอย่างหนึ่งของการเป็นคนแล้วนะ -
เลิกถามตัวเองว่าทำไม
เลิกถามคนรอบข้าง
คนแปลกหน้าว่าทำไมมันถึงต้องจบลงแบบนี้
เพราะไม่มีคำตอบไหนที่จะทำให้คุณเลิกถาม
และก็ไม่มีคำตอบไหนที่ทำให้คุณรู้สึกดีกับการเลิกรากับใครสักคน -
เรามองในสิ่งที่เราอยากเห็น เราไม่ได้เห็นในสิ่งที่ใครสักคนกำลังเป็น
คุณกำลังมีความรัก
หรือคุณกำลังตกหลุมอยู่ในความรู้สึกที่คิดไปเองว่ามันคือความรัก
คุณกำลังชอบเค้า
หรือคุณกำลังเพลิดเพลินอยู่ในจินตนาการว่าการได้รักเค้านั้นมันวิเศษณ์ขนาดไหน
หลายครั้งที่เราเจ็บปวดกับความรัก เจ็บปวดกับใครสักคน
เพราะเราเองที่ตกหลุมพรางความคิด ภาพลวงตาที่สร้างขึ้นมาเอง
จนละสายตาไม่มองสิ่งที่เป็นอยู่จริงๆ เพราะติดอยู่กับสิ่งที่เข้าใจไปคนเดียวอยู่ข้างใน -
การเยียวยาหลังการเลิกรา มันไม่ได้ใช้เวลาแค่วันสองวัน
มันต้องปล่อยให้ตัวเองให้ทบทวนหลายๆอย่าง
ปล่อยให้ตัวเองได้ช่างมันกับหลายความรู้สึก
แต่ถ้าคุณยังรู้สึกคิดถึงเค้ามาก
เจ็บปวดกับภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่มันแว้บเข้ามาให้คุณเจ็บจี๊ดๆ
ยังรู้สึกอยากฟาดหน้าเค้าสักป้าป ที่ทำไมถึงทำกับเราได้ขนาดนี้
คุณน่าจะยังไม่พร้อมที่จะกลับไปเซไฮ
ว่าไงเพื่อนกับเค้าหรอกนะ
ก่อนที่จะอยากกลับไปเป็นแบบนั้น
ลองทำความเข้าใจตัวเองให้ได้ก่อน
ว่าที่จริงแล้วเราจบกับความรู้สึกในอดีตแล้วหรือยัง -
บางครั้งก็เข้าใจนะว่า
เป็นเรื่องลำบากใจอยู่เหมือนกันที่จะเริ่มต้นใหม่กับใคร
เพราะเราตั้งระดับของคนที่เราต้องการไว้สูงเหลือเกิน
บางทีเข้ามาแล้วไม่ได้คล้ายกับแฟนเก่า
หรือไม่ได้ทำให้รู้สึกเหมือนคนเก่า เราก็ไม่โอเค
แต่ก็มีบางคนที่อยากเข้ามา แล้วตัวเราเองก็เริ่มกลัว
กลัวแบบที่เคยเจอมา กลัวอะไรหลายๆ อย่าง
เลยไม่กล้าที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครสักที -
มันโอเคแหละ ที่เราจะยังรู้สึกกับมัน
เพราะความเจ็บปวดที่เราพบเจอ หยั่งลงลึกไปในจิตใจ
บางทีความเจ็บปวดพวกนี้ไม่ได้มาจากการเกิดอุบัติเหตุอะไรพวกนั้นอย่างเดียว
การเสียคนรัก หรือการจบกับความสัมพันธ์อันเป็นพิษ
ก็เป็นอีกสาเหตุให้เราเจ็บปวดยาวนาน
เหมือนมีแผลเป็นอยู่ในใจแบบนี้อยู่
ผมเคยบอกตัวเองนะว่า
บางทีการที่เรารักใครสักคน
ก็ไม่ได้หมายความว่า เราควรจะต้องอยู่กับเค้า
ไม่ได้หมายความว่า เราไม่คู่ควร หรือเค้าไม่ควรคู่
พูดกันตรงๆ เราสามารถมีชีวิตที่มีความสุขได้
ในขณะที่ข้างในลึกๆ ยังมีเรื่องบางอย่างที่เจ็บปวดอยู่ -
ทุกคนบอกและมองออกว่าควรออกมา
แต่มีเพียงเราคนเดียวเท่านั้นที่อยากเดินกลับไป
เพราะว่ามันง่ายกว่าการเริ่มใหม่ ?
เพราะว่าเราอ่อนแอเกินกว่าจะรับความเจ็บปวดแบบที่ยังไม่เคย
เลยต้องกลับไปยอมรับความเจ็บปวดแบบเดิม ?
ในเมื่อความเชื่อมันไม่มีเหลืออยู่แล้ว
ทำไมเราถึงเลือกที่จะกลับไปหา Toxic Relationship ครั้งนี้อีก ? -
การค้นพบความซ้ำซาก จำเจ เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติในการเป็นคนอย่างเราๆ
เพราะเมื่อเราชอบอะไร เราจะต้องการสิ่งนั้นอยู่ตลอดเวลา
ต้องการมันมากขึ้น แล้วเราก็เข้าใจไปเองว่า
สิ่งนั้นจะยังคงทำให้เรารู้สึกแบบนั้นอยู่ตลอด
โดยที่ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไร
เป็นเรื่องปกติที่เราจะหลงไหลในเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกประหลาดใจ ทำให้หัวใจเต้นรัว
หรือเรื่องราว เหตุการณ์ทำให้เราลืมช่วงเวลาชีวิตธรรมดาๆ ณ ปัจจุบันขณะ ไปสักระยะ
จนทำให้เรากลายเป็นคนเสพติดความตื่นเต้นแบบเรื้อรัง
บางคนยินดีที่จะอยู่ในโลกแฟนตาซีที่สร้างขึ้นมาเอง
คิดว่าความสุขที่พบเจอจะไม่มีวันหายไป
หลายครั้งที่เราพยายาม บังคับใครอีกคนให้เปลี่ยน
มากกว่าที่จะยอมรับ หรืออยู่กับความเปลี่ยนแปลง
ที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิต ที่มันอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่เคยคิด
แต่มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้ และเข้าใจอะไรในชีวิตได้ลึกขึ้น
ลองสำรวจตัวเองว่านั่งอยู่ในโลกของใคร
ยังอยู่ในโลกของเค้าใช่มั้ย หรือควรออกมาหาโลกของตัวเองสักที ? -
เคยเชื่อว่าเรามีคุณค่า จากการถูกให้ค่าโดยใครสักคน
และในวันที่ใครคนนั้นเดินจากไป
นั่นทำให้รู้สึกว่าผมไม่มีคุณค่าอะไรหลงเหลืออยู่เลย
แต่จะทำอย่างไรเมื่อ Self Esteem หายไปจนหมดหลังเลิกรา ? -
โซเชียลมีเดียไม่ใช่เครื่องมือที่ดีสำหรับคนอกหัก
มันคือเครื่องทรมานจิตใจตัวเอง
เสมือนการบำเพ็ญทุกรกิริยาทางอ้อม 🙂
ทุกอย่างมันง่ายไปหมดที่จะทำให้เราล่วงรู้ความลับที่ไม่น่ารู้
ทุกอย่างดูเร้าให้เราเข้าไปสอดส่อง
ไม่ว่าจะด้วยความเสียใจ ความโกรธ หรือความแค้น
เราเอาเวลาต่อจากนี้ อุทิศให้กับการ stalking แฟนเก่า
แต่ยิ่งตามก็ยิ่งเจ็บ
ยิ่งรู้ชีวิตของเขาหลังการเลิกรา
ยิ่งทำให้เราเริ่มต้นใหม่ได้ยากขึ้น
แต่จะเลิกตามได้ยังไง
ในเมื่อใจมันยังอยากรู้อยู่เลย ? -
การจากลาเป็นความเจ็บปวด
ฟังดูเป็นประโยคธรรมดา
ที่เอาไปพูดกับคนที่สมหวังกับความรัก
เขาก็จะมองว่า มันเป็นประโยคดาดๆ
ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย
แต่พอถึงวันที่มันเกิดขึ้นกับเรา
วินาทีที่เค้าบอกกับเราว่า พอก่อนมั้ย
ลดความสัมพันธ์ของเราลงดีกว่า
แล้วไอ้ประโยคอะไรพวกนี้ มักจะมาในวันสำคัญๆ
ที่มันยิ่งทำให้เราจำแม่น
แต่สำหรับบางคน การจากลา อาจในรูปแบบของความเงียบ
แบบที่ ไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น
จู่ๆ ก็หายไป ติดต่อไม่ได้ ไลน์ไม่ตอบ แต่โซเชียลมีเดียอัพเดทตลอด
ทิ้งไว้เพียงแค่คำถามที่เกิดขึ้นในใจว่า เออ กูผิดอะไร
แล้วคำถามพวกนี้มันวนซ้ำ มันอยู่นาน
เราเองจะไม่สามารถหาคำตอบที่มันมาทำให้เรารู้สึกดีกับมันได้
ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน -
ทุกวันที่ผ่านไปคือความเจ็บปวด
เจ็บแบบที่ไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง
เจ็บแบบที่ไม่มีคนเข้าใจ
เจ็บแบบที่ข้างนอกดูปกติ สบายดี เวลาที่ใครมองเข้ามา
แต่ข้างในเรากรีดร้องเสียงดัง แต่มีเพียงแค่เราที่ได้ยินเสียงนั้นอยู่คนเดียว -
การไม่รู้ว่าความสุขของตัวเองคืออะไร
มันเป็นเรื่องน่าเศร้า
แต่จะน่าเศร้าขึ้นไปอีก
ถ้าเรารู้ว่า ความสุขของเรา
เป็นความสุข ที่ขึ้นอยู่กับคนอื่น -
ผ่านมาเดือนครึ่งแล้ว ลองกลับไปถามตัวเองหน่อยไหม
ว่าสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้เมื่อต้นปี ได้เริ่มทำอะไรแล้วหรือยัง -
บางทีก็ไม่จำเป็นต้องรอให้มีอีเว้นอะไรใหญ่ในชีวิตเกิดขึ้นก่อน
เราถึงจะเริ่มเรียนรู้อะไรจากมันได้
บางทีการนั่งอยู่เฉยๆ ขับรถไปทำงาน ยืนอยู่บนบีทีเอส
นอนมองเพดานระหว่างรอให้หลับ มันก็ทำให้เรานึกถึงอะไรที่ผ่านมา
แล้วเรียนรู้กับมันได้เหมือนกัน - Visa fler